Malaysia-Singapore Trip (2) Merdeka (KL)- Melaka (Malacca)
top of page

Malaysia-Singapore Trip (2) Merdeka (KL)- Melaka (Malacca)

มาต่อกันกับวันสุดท้ายใน KL พร้อมเดินทางสู่มะละกา (ภาษาอังกฤษเขียนเป็น Malacca แต่ภาษา Bahasa เขียนเป็น Melaka) (บันทึกเดิม Malaysia-Singapore Trip (1) KL-Genting-Batu cave)


ตื่นเช้ามาเลยไปเก็บบรรยากาศรอบๆ ที่พัก ได้แก่ มัสยิดจาเม็ก แล้วก็เมอเดก้า (Merdeka) ซึ่งเทียบได้กับสนามหลวงบ้านเรา ณ จุดตรงนั้นสังเกตได้ว่ามีรถบัสท่องเที่ยวเยอะมาก ประมาณว่ามากับทัวร์ ใครๆ ก็พามา


1.Merdeka


บรรยากาศจากที่พัก ณ วันสุดท้ายก่อนเดินทางออกจาก KL จะมองเห็นมัสยิดและตึกต่างๆ สวยงาม







จากที่พักเดินข้ามฝั่งไป ไม่ไกลก็จะพบมัสยิดจาเม็ก ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนะ เพราะมีนักท่องเที่ยวเยอะเลย และน่าชื่นชมคือเขายินดีต้อนรับมาก มีการขอให้ลงทะเบียนว่ามาจากประเทศไหน จนท.ชวนคุย และแนะนำให้ผู้หญิงต้องใส่ชุดคลุมแบบเต็มตัวไปเลย ไม่ต้องกังวลว่าขาสั้น ขายาว เป็นชุดคลุมยาวไปเลยตั้งแต่หัวจรดเท้า (ตัวชุดไม่ได้ถ่ายไว้แบบชัดเจนนะ แต่ขอให้ดูรูปจากภาพวิวกว้างแล้วกันครับ)



สังเกตุเห็นชุดแฟนไกลๆ มั้ยครับ จะเป็นชุดสีแดงคลุมทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย เพราะงั้นผู้หญิงจะใส่ขาสั้น ขายาวมา อย่างก็ต้องใส่ตามนี้เว้นแต่จะใส่ชุดฮียาบอยู่แล้ว ส่วนผู้ชายเขาไม่ได้ห้ามอะไรครับ เพียงแต่เราก็ใส่สุภาพพอ






จากนั้นก็เดินลัดเลาะถนนไปข้ามไปสู่ฝั่งของสนามหลวง ลองชมภาพกันครับ


ทีนี้ขากลับมายังที่พัก เดินเลาะไปมา ไปเจอสะพานปรากฏว่าเป็นสะพานที่อยู่ด้านข้างมัสยิดเดินข้ามมาตรงนี้ได้เลย แหม่ เราก็อุตส่าห์เดินเลาะไปตามถนน ที่แท้เดินข้ามสะพานแค่นี้ก็ถึงล่ะ


จากนั้นเช็คเอ้าท์เสร็จเรียบร้อย ก็เดินทางไปยัง KL sentral (อีกครั้ง) ด้วยรถไฟฟ้า เพื่อต่อรถไฟฟ้าอีกสายไปยัง TBS (Terminal Bersepadu Selatan) ก็น่าจะเทียบเคียงได้กับสายใต้บ้านเราเพราะเดินทางลงใต้ไปยังมะละกา สิ่งที่ชอบอกชอบใจมากเมื่ออยู่ประเทศนี้คือความสะดวกสบายในการเดินทาง ความทันสมัย จริงๆ สามารถซื้อตั๋วผ่านออนไลน์ได้เลยนะ แต่ไม่ค่อยมั่นใจเลยเลือกที่จะมาซื้อที่สถานีดีกว่า พอนั่งรถไฟฟ้ามาถึงสถานีก็มีป้ายบอกทางชัดเจน มีบันไดเลื่อน มีลิฟท์ลากของ กระเป๋าได้สะดวกมาก จากตัวสถานีรถไฟฟ้ามายังอาคาร TBS ไม่ไกลเลย เดินลากกระเป๋ามาเรื่อยๆ ไม่เหนื่อย


พอเข้ามาในอาคารก็เป็นแอร์หมดไม่มีตรงไหนนอกแอร์เลย การซื้อตั๋วจะซื้อกับตู้อัตโนมัติก็ได้แต่ธนบัตรต้องไม่เกิน 50 ริงกิต ดังนั้นเรามีเหลืออยู่ 1 ใบเลยซื้อได้แค่ 1 คน อีกคนต้องไปต่อคิวซื้อกับเคาน์เตอร์ จนท. สิ่งที่อยากจะบอกคือสะดวกมาก มีตู้หลายสิบตู้ มีเคาน์เตอร์ประมาณ 20 กว่าตู้ จะไปที่ไหนก็สามารถซื้อได้ทุกตู้ ไม่ต้องมาไล่หาดูว่าเจ้าไหน เป็นเจ้าไหน ถ้าใครเคยเดินทางจากหมอชิตหรือสายใต้จะนึกภาพออกว่าต่างกันอย่างไร


เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อถึงจุดที่จะต้องเข้าไปด้านในเฉพาะผู้โดยสาร ก็ไม่ต้องมีใครมายืนจัดการให้ สามารถสแกนตั๋วกับเครื่องอัตโนมัติได้เลยแล้วเข้าไปนั่งรอ ณ ชานชลาที่กำหนด และตรงจุดที่รอรถ ก็ไม่มีการไปรอตรงประตูหรือยืนออกันหน้าประตูนะ ต้องรอเรียกเท่านั้น แม้เราจะเห็นรถมาแล้วก็ตาม ซึ่งมีจอคอยบอกสถานะตลอดว่ารถที่เรารอขึ้นนั้นมาถึงหรือยัง มาถึงแล้วแล้วเทียบท่าหรือยัง จนได้ยินประกาศเรียกถึงจะไปขึ้นรถได้ แล้วรถไม่เต็มก็ออกตามเวลาเป๊ะๆ ใช้เวลาในการยกกระเป๋า ตรวจตั๋วไม่เกิน 15 นาที เสร็จรถออกทันทีเลย และไม่มีการแวะรับกลางทางด้วย จึงทำให้คำถามยังคงมีอยู่ต่อไปว่า ทำไมบ้านเราถึงทำไม่ได้อย่างนี้ หรือเมื่อไหร่จะเป็นได้อย่างนี้ มันดีต่อประชาชนทุกคนจริงๆ


จากนั้นซื้อตั๋วไปยังมะละกา จากสถานี TBS ไปยัง มะละกา (Melaka Sentral) จะมีรถหลายบริษัทมีช่วงราคาตั้งแต่ประมาณ 10ริงกิตไปถึง 18ริงกิต ขึ้นอยู่กับลักษณะของรถก็เลยเลือกช่วงราคากลางๆ คือ 11ริงกิต ไม่ถูกและไม่แพงไป แต่ถือว่ารถดีทีเดียว เทียบเท่ากับรถ 24 ที่นั่งบ้านเรา และที่สำคัญแม้คนจะไม่เต็มก็ออกจ้า ดีและตรงเวลามากๆ เทคโนโลยีจัดการได้ทุกอย่าง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงสถานีมะละกา


เมื่อถึงสถานีแล้วก็ไปซื้อตั๋วเพื่อไปสิงคโปร์ต่อเลย เดินเข้าไปในสถานีดูป้าย International ไว้ กดบัตรคิว รอแล้วก็เข้าไปซื้อกับเจ้าหน้าที่เลย พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน อาจจะฟังยากหน่อยแต่สื่อสารกันรู้เรื่องแน่นอน ซื้อตั๋วไปลงที่สิงคโปร์มีหลายจุดในลง แต่คนไทยนิยมไปลงที่ตึก Golden Mile อารมณ์แบบว่า Thai Town เป็นตึกจุดจอดรถระหว่างประเทศและเป็นตึกที่มีคนไทยอยู่เยอะ ทั้งอาหารไทย สินค้าไทยต่าง ค่าตั๋วราคา 25ริงกิต ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ไม่รวมการผ่านด่าน ตม.


2.Melaka


ถึงมะละกาแล้ว สิ่งแรกเลยคือเดินทางไปยังที่พัก ที่นี่ไม่มีรถไฟฟ้ามีแต่แทกซี่กับรถบัส จากที่หาข้อมูลมาจะนั่งรถบัสเข้าเมืองไปก็ค่อนข้างลำบากอยู่ เราเองไม่ใช่สายลุยก็เลยเลือก Grab ไว้ใจได้ ราคาแน่นอน เมื่อเรากดจองทาง Grab แล้ว คนขับอาจโทรหาเราว่าอยู่ตรงไหนยังไง ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม แต่วันนั้นยังงงๆ กับสถานที่ อธิบายไม่ถูก แอปก็เพิ่งเคยใช้ ไม่รู้ว่าเขามีให้ถ่ายรูปได้ เราก็ดันพยายามอธิบายก็งงกันไป จนเดินออกไปทางด้านนอกแล้วส่งโทรศัพท์ให้ร้านค้าแถวนั้นคุยให้ ทีนี้ก็รู้ล่ะ ไม่ยาก ในแอปก็มีบอกป้ายทะเบียน บอกชื่อคนขับ เราตรวจสอบและรอได้เลยว่าจะเป็นรถคันไหน ทะเบียนอะไร โรงแรมที่เราพักชื่อ 906 Hotel Riverside ค่ารถ 7ริงกิต ค่าที่พักตอนจองไว้กับ Agoda ราคา 448.46 บาท แต่โรงแรมนี้เก็บค่ามัดจำ 50ริงกิต ทำให้เงินหายไปเยอะเลย 55 อดล่องเรือเลย ไม่ได้เผื่อตังไว้ ้เช็คอินเสร็จก็เดินเลาะไปตามริมน้ำเพื่อเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของเมือง


บรรยากาศริมน้ำเริ่มเดินจากที่พักไปเข้าสู่ตัวเมือง


พอเดินเลาะริมน้ำไปเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดที่เริ่มต้องถายรูปล่ะ 555 จะเห็นผนังตึกชัดเจน Welcome to Melaka



เดินลัดเลาะถนนมาเรื่อยๆ ก็จะถึงจุดสำคัญของเมืองมะละกาที่ใครมาก็ต้องมา ณ จุดนี้



และด้านหลังของโบสถ์ก็จะเป็นป้อมปราการที่ต้องเดินขึ้นไปหน่อย จุดนี้ก็ต้องไป และระหว่างทางเดินจะมองเห็น Melaka Tower อยู่ลิบๆ และด้วยประสบการณ์จากการไปขึ้น KL Tower มา ก็เลยตัดสินใจว่าจะต้องไปขึ้นที่นี่อีก



แต่ค่าขึ้นหอคอยก็หนักหนาเอาการอยู่ โชคดีที่ได้ส่วนลดในวันนั้นเลยจ่ายไปในราคา 41.40ริงกิต สำหรับสองคน (จำไม่ได้แล้วคนละเท่าไร แต่ได้ส่วนลด 1 คน อีกคนจ่ายเต็ม) บรรยากาศก็เห็นวิวเมืองมะละกาสวยงามมาก เก็บภาพมาเล็กน้อย



ลงจากหอคอยมาก็หิวพอดี เลยเดินย้อนไปตามถนน อาศัย Google Maps ช่วย สะดวกมากๆ แถวๆนั้นมีอะไรกินบ้าง ก็มีตลาด มีห้าง ค้นไปมาไปเจอว่ามี Bar B Que Plaza เลยเดินตามหากันทั่วห้างเลย 555 กว่าจะเจอร้าน หายากมากเพราะซ่อนอยู่ท้าย (ก็พอเข้าใจได้เพราะเขาขายหมู) แต่!!! วันนั้นร้านปิดพอดี 555 สุดท้ายทำใจเดินเข้า KFC จบ


แต่สวรรค์ไม่เป็นใจ KFC บ้านเขาค่อนข้างกลิ่นแรงออกอินเดีย แฟนกินไม่ได้ กินไปสองสามคำ ปวดหัว เวียนหัวไปพักใหญ่เลย เพราะว่าข้าวของเขาเป็นข้าวมันและไก่คลุกผงเครื่องเทศเยอะเลยกลิ่นแรงไปหน่อยสำหรับเราสองคน


ปิดท้ายยามค่ำคืนเล็กน้อยระหว่างเดินทางกลับที่พัก มาที่นี่เสียค่ารถโดยสารเพียง 2 ครั้งคือ Grab จากสถานีรถบัสไปที่พักและจากที่พักไปสถานีรถบัส นอกนั้น เดิน! อย่างเดียวครับ



ตื่นเช้ามา Check out เสร็จ ฝากกระเป๋ารับเงินมัดจำคืนแล้วก็ออกไปหาของกิน ตามหนังสือเลยครับ ร้านที่แนะนำเป็นร้านติ่มซำ ชื่อ Low Yong Moh ราคาก็ต่างจากบ้านเรา (ขอเทียบกับหาดใหญ่ที่เข่งล่ะ10-15 บาท) ที่นี้ราคาประมาณเข่งล่ะ 3ริงกิต กินไปหลายอย่าง สิริรวม 32.90ริงกิต (ก็เอาเงินมัดจำนั่นละมากิน) จากนั้นก็นั่ง Grab กลับไปยังสถานีเพื่อรอรถบัสไปสิงคโปร์


ขอเล่าเพิ่มเติมระหว่างรอรถ ความเป็นระเบียบเช่นเดียวกันกับที่ TBS เลย ตั๋วมี Code เพื่อสแกนผ่านตู้แล้วเข้าไปยังพื้นที่ นั่งรอรถ มีป้ายบอกสถานะของรถ ว่า ชานชลาไหนรถเบอร์อะไรกำลังจะเข้ามา รถสายนั้นไปไหน จะเข้ามาเวลาประมาณกี่โมง ทุกอย่างชัดเจนมาก แล้วระหว่างรอคนข้างๆ เป็นชาว Netherland ได้พูดคุยกันนิดหน่อย เขามากันเป็นครอบครัวเดินทางไปยังสิงคโปร์เช่นเดียวกัน


ไว้บันทึกหน้าจะมาเล่าจากมะละกานั่งรถบัสข้ามไปยังสิงคโปร์ ต้องผ่านด่านตม. รถจอด Golden Mile กินส้มตำ 555 รอติดตามครับ


Malaysia-Singapore Trip (3) Melaka (Malacca) - Singapore


27 views0 comments
bottom of page